IU ระมัดระวังในการขยายขอบเขตของเธอเสมอ ด้วยตำแหน่งของเธอ เธอสามารถเลือกบทที่สวยงามกว่านี้ เรื่องราวที่เบาสบายกว่าและสนุกกว่า และเสียงเชียร์มากกว่านี้ได้ แต่เธอกลับเลือก [ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน] ซึ่งเป+นเรื่องราวที่ยากลำบากจากยุคสมัยอันห่างไกลและดินแดนอันไกลโพ้น ด้วยการเล่าเรื่องที่มีชั้นเชิงซับซ้อน และครั้งนี้การเลือกของเธอก+ถูกต้อง
ซีรีส์ของ Netflix ['ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน'] เป+นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งและจุดตัดระหว่างชีวิตของคนสองรุ่น ศูนย์กลางของเรื่องนี้คือนักแสดงสาว IU เธอเล่นสองบทบาทในละครเรื่องนี้ คือ แอซุน และ กึมมยอง ทั้งสองคนนี้ไม่เพียงแต่เป+นตัวละครที่แตกต่างกันเท่านั้น แต่ยังมีความเชื่อมโยงกันด้วยสายเลือดในฐานะแม่และลูกอีกด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่ง IU ใช้ชีวิตเป+นตัวละครตัวหนึ่งและกลายมาเป+นลูกของตัวละครตัวนั้นอีกครั้ง

IU ระมัดระวังในการขยายขอบเขตของเธอเสมอ ด้วยตำแหน่งของเธอ เธอสามารถเลือกบทที่สวยงามกว่านี้ เรื่องราวที่เบาสบายกว่าและสนุกกว่า และเสียงเชียร์มากกว่านี้ได้ แต่เธอกลับเลือก [ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน] ซึ่งเป+นเรื่องราวที่ยากลำบากจากยุคสมัยอันห่างไกลและดินแดนอันไกลโพ้น ด้วยการเล่าเรื่องที่มีชั้นเชิงซับซ้อน และครั้งนี้การเลือกของเธอก+ถูกต้อง
ซีรีส์ของ Netflix ['ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน'] เป+นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งและจุดตัดระหว่างชีวิตของคนสองรุ่น ศูนย์กลางของเรื่องนี้คือนักแสดงสาว IU เธอเล่นสองบทบาทในละครเรื่องนี้ คือ แอซุน และ กึมมยอง ทั้งสองคนนี้ไม่เพียงแต่เป+นตัวละครที่แตกต่างกันเท่านั้น แต่ยังมีความเชื่อมโยงกันด้วยสายเลือดในฐานะแม่และลูกอีกด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่ง IU ใช้ชีวิตเป+นตัวละครตัวหนึ่งและกลายมาเป+นลูกของตัวละครตัวนั้นอีกครั้ง

การแสดงที่เต+มไปด้วยอารมณ์ของ IU มาถึงจุดสูงสุดในฉากที่เธอเผชิญหน้ากับ Bu-yong (Kang Myung-joo) แม่ของ Yeong-beom (Lee Jun-young) คนรักที่ Geum-myeong อยากจะแต่งงานด้วย นี่คือส่วนที่กึมมยองพูดกับบูยงที่มองดูพ่อแม่ของเขาว่า "ผมไม่ละอายในน้ำมือของพ่อเลย" แม้จะเป+นเพียงแค่บรรทัดสั้นๆ แต่ก+เต+มไปด้วยความนับถือตนเอง ความกลัว และบาดแผลภายใน IU ออกแบบและแสดงท่าทางทางจิตวิทยาอย่างแม่นยำจนกระทั่งเธอพูดบทนั้นออกมา ฉากที่เธอสารภาพกับยองบอมในเวลาต่อมาว่า “เราจะแต่งงานกันได้ยังไง พ่อแม่ของฉันกำลังร้องไห้” ไม่เพียงแต่ถูกเข้าใจว่าเป+นความล้มเหลวในความรักเท่านั้น แต่ยังเป+นการสูญเสียแง่มุมภายนอกของ “ความรักในครอบครัว” ที่กึมมยองเคยหวงแหนอีกด้วย และการ 'พังทลาย' นั้นคือสิ่งที่ 'กึมยอง' ต้องอดทนอย่างเต+มที่ ในเวลาเดียวกันมันยังเกี่ยวข้องกับอดีตของ Ae-soon ด้วย
สิ่งที่น่าสังเกตในการทำงานชิ้นนี้คือ IU ได้ท้าทายตัวเองในฐานะแม่เป+นครั้งแรก เอซุนที่เธอเล่นเป+นตัวละครที่สูญเสียความตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่เพราะลูกของเธอ แต่ในที่สุดก+กลับมามีชีวิตอีกครั้งเพราะลูกของเธอ IU แสดงถึงความหลากหลายในตัวตนของ Ae-soon ได้อย่างเต+มอารมณ์ ความตำหนิตัวเองที่ถูกเก+บกดและกดเอาไว้ ความเสียใจและความปรารถนาที่มองเห+นในครั้งเดียว ถูกแสดงออกมาอย่างสวยงามบนใบหน้าของ IU กึมมยองคือลูกสาวที่พยายามดำเนินชีวิตตามแบบของตัวเอง โดยเหยียบย่ำเงาของแอซุน หากว่าเอซุนปิดความฝันของเธอเพื่อดำรงอยู่บนโลก กึมมยองก+จะปิดหัวใจของเธอเพื่อใช้ชีวิตบนโลกใบนี้ ในกระบวนการนี้ IU ไม่ได้รีบเร่งที่จะแยกความแตกต่างระหว่างตัวละครทั้งสองตัว แต่เธอกลับกระทำการโดยการทออารมณ์ร่วมที่ไหลระหว่างพวกเขาเข้าเป+นปมเดียวกัน

[‘ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน’] เล่าถึงชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง และแสดงให้เห+นว่าชีวิตของคนรุ่นหนึ่งถูกถ่ายทอดสู่คนอีกรุ่นหนึ่งอย่างไร IU ใช้ชีวิตผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นโดยมีครอบครัวเป+นศูนย์กลาง และเวลานั้นไม่ใช่ตัวละคร แต่เป+นมนุษย์ และมันสัมผัสคุณด้วยน้ำหนักของชีวิต สิ่งที่เชื่อมโยงตัวละครทั้งสองเข้าด้วยกันไม่ใช่การแต่งหน้าหรือสไตล์ แต่เป+นความจริงใจในการแสดงออก และ IU ยึดมั่นในความจริงใจนั้นอย่างแน่นแฟ้นและไม่หวั่นไหว งานนี้แสดงให้เห+นว่า IU ไม่สามารถถูกจำกัดความได้จากภาพลักษณ์ในฐานะนักแสดงในอดีตของเธออีกต่อไป ตอนนี้เธอแสดงด้วยภาษาของเธอเองและโน้มน้าวตัวละครด้วยอารมณ์ของเธอเอง ไม่ใช่ด้วยบทเพลงหรือสปอตไลท์ แต่ด้วยวิธีที่เงียบสงบและจริงใจที่สุด IU ได้ขยายขอบเขตของเธออีกครั้ง และการขยายขอบเขตครั้งนี้จะยังคงเป+นความสำเร+จที่ชัดเจนมากกว่าที่เคย